ธนัญชัย คงมาก อยู่กับ เสือ มหาชัย และ Sasithorn Kongmak
22 ชม.
Ep.พิเศษ1 คดีลิขสิทธิ์โดเรม่อน สภ.โคกขาม ในวันนัดสืบพยาน
อ้างอิงจากรายงานกระบวนพิจารณาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง คดีหมายเลขดำที่ อ.413/2558 เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2559 ความอาญา ระหว่าง
พนักงานอัยการ สำนักอัยการสูงสุด (โจทก์)
บริษัทฟูจิโกะ-เอฟ-ฟูจิโอะโปร จำกัด (โจทก์ร่วม)
นางศศิธร คงมาก (จำเลย)
ผู้พิพากษาออกนั่งพิจาณาคดีเวลา 10.30 น.
นัดสืบพยานโจทก์และจำเลย พนักงานอัยการโจทก์ ทนายโจทก์ร่วม จำเลยและ ทนายจำเลย มาศาล
พวกเราเห็นอะไรกับบรรทัดนี้ #ตำรวจชุดจับกุมและพนักงานสอบสวน ไม่ได้มาศาลในวันนัดสืบพยานแต่ในบัญชีพยานโจทก์มีชื่อ นายชาตรี จงจันทา(มาศาล) / คต.เอกทพล ดอนระไพร (ไม่มาศาล) /พ.ต.ท.ทวีป เงินดี (ไม่มาศาล) /นาง...... (มาศาลเพราะเป็นพยานฝั่งจำเลยด้วย) ส่วนพยานฝั่งจำเลยมาครบตามบัญชีพยาน
จำเลยยื่นขอถอนทนาย........และแต่งตั้งทนายคนใหม่เข้ามาแล้ว
ศาลพิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้จำเลยถอนทนาย.....ได้
บริษัทฟูจิโกะ-เอฟ-ฟูจิโอะโปร จำกัด ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการโจทก์ ตามคำร้องขอเป็นโจทก์ร่วม ฉบับลงวันที่ 9 ธ.ค. 2558
สำเนาคำร้องให้พนักงานโจทก์และจำเลยแล้วแถลงไม่คัดค้านการขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม #อันนี้เป็นหน้าที่ทนายจำเลยไม่ยอมคัดค้าน (จำเลยไม่สามารถรู้เรื่องนี้ได้เพราะเป็นการทำหน้าที่ของทนาย)
ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าผู้เสียหายมีความประสงค์ที่จะเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการโจทก์ ประกอบกับพนักงานอัยการโจทก์และจำเลยไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ผู้เสียหายเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการโจทก์ได้
คู่ความแถลงร่วมกันว่าคดีสามารถตกลงกันได้โดยผู้เสียหายจะขอถอนคำร้องทุกข์ และโจทก์ไม่คัดค้านการถอนคำร้องทุกข์ของผู้เสียหาย #แต่เนื่องจากในวันนี้หนังสือมอบอำนาจของผู้เสียหายที่มอบอำนาจให้กับทนายโจทก์ร่วมสิ้นสุดลงเมื่อวันที่31ธันวาคม2558โดยทนายโจทก์ร่วมกำลังดำเนินการขอให้ทางผู้เสียหายทำหนังสือมอบอำนาจเข้ามาใหม่ในนัดนี้จึงขอเลื่อนคดีออกไปสักนัด
ในวรรคนี้เราจะเห็นได้ว่าโจทก์ร่วมซึ่งเป็นบริษัทฟูจิโกะ-เอฟ-ฟูจิโอะโปร จำกัด เป็นบริษัทื่รับมอบอำนาจช่วงมาจากบริษัทแอนนิเมชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล อีกที เราเห็นอะไรจากตรงนี้ครับ #ใบมอบอำนาจของทนายฟูจิโกะหมดอายุมา19วันแล้ว ฉะนั้นโจทก์ร่วมจึงไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย เพราะใบมอบอำนาจหมดอายุมาแล้ว 19 วัน ในความเป็นจริงแล้วต้องไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวในคดีนี้ได้เลยเพราะไม่ได้อยู่ในสถานะของผู้เสียหายโดยนิตินัย ไม่มีอำนาจมาต่อรอง เสนอการขอถอนคำร้องทุกข์ในคดีด้วยซ้ำ #แต่ศาลท่านอนุญาตให้เข้ามาเป็นโจทก์ร่วมและขอถอนคำร้องทุกข์ได้
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าความผิด พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 เป็นความผิดอันยอมความได้ เมื่อคู่ความสามารถตกลงกันได้ #โดยผู้เสียหายมีความประสงค์จะถอนคำร้องทุกข์ ประกอบกับพนักงานอัยการโจทก์ไม่คัดค้าน #แต่เนื่องจากหนังสือมอบอำนาจของผู้เสียหายสิ้นสุดลง เมื่อวันที่31ธ.ค.2558 เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงอนุญาตให้เลื่อนคดีไปเพื่อให้ผู้เสียหายทำหนังสือมอบอำนาจฉบับใหม่เข้ามาโดยให้เลือนไปนัดพร้อมเพื่อถอนคำร้องทุกข์ในวันที่ 16 พ.ค. 2559 เวลา 09.00น. ตามที่คู่ความตกลงกัน
สรุปคร่าวๆของเรื่องราวในวันนัดสืบพยาน มีเรื่องแปลกๆให้เราคิด ฝ่ายโจทก์ ไม่ยอมขึ้นเบิกความ เพราะ ด.ต.เอกทพล ดอนระไพร ตำรวจชุดจับกุม พ.ต.ท.ทวีป เงินดี พนักงานสอบสวน สภ.โคกขาม ซึ่งเป็นพยานโจทก์ในคดีนี้ไม่ยอมมาศาล แถมมีทนาย บริษัทฟูจิโกะ-เอฟ-ฟูจิโอะโปร จำกัด มาขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม บริษัทนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆในชั้นสอบสวน เพราะในชั้ันสอบสวนของ สภ.โคกขาม มีนายชาตรี จงจันทา เป็นผู้เสียหาย อยู่ๆบริษัท ฟูจิโกะ-เอฟ-ฟูจิโอะ จำกัด ซึ่งไม่ใช่ผู้เสียหายที่แท้จริงเช่นกันโดดเข้ามาร่วมในคดีนี้เพราะใบมอบอำนาจหมดอายุ คดีนี้เป็นความผิดพลาดของกระบวนการยุติธรรมอย่างสิ้นเชิง แบบนี้ประชาชนคนไทยเชื่อมั่นได้อย่างไรว่ากระบวนการยุติธรรม นั้นยุติธรรมจริงๆ ขอฝากไปถึง ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา / รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน ช่วยพิจารณาเหตุการณ์พิจารณาความในครั้งนี้ด้วยครับว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะอาจจะเป็นการสร้างความเสื่อมเสียให้กับกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย
#บทความนี้เป็นการวิจารณ์โดยสุจริตกับความจริงที่เกิดขึ้น
Ep.พิเศษ1 นี้ขอจบแต่เพียงเท่านี้ โปรดติดตาม Ep.4 ตลุย ปปท. พรุ่งนี้นะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น