หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2565

ก้าวแรกสู่การค้าออนไลน์ จะเริ่มต้นที่ไหนดี

 ด้วยทุนที่มีจำกัด การลงทุนจึงต้องคิดให้รอบคอบ เงินทุกบาทต้องจ่ายอย่างคุ้มค้าที่สุด

เรามาดูกันว่า ตลาดแต่ละแหล่ง มีความเป็นไปได้มากน้อยขนาดไหน





ขายผ่านเฟสบุก ... ถือเป็นตลาด ระดับ อนุบาล ให้คุณได้หัดขาย หัดคิดสโลแกน หัดคิดคำพูด เพื่อที่จะดึงดูดลูกค้า แต่ในความเป็นจริง ตลาดนี้ยังแคบมาก เล็กมาก สำหรับการขาย เพราะคนที่จะซื้อคุณ ก็มีแต่เพื่อนๆคุณเท่านั้น ฉนั้น ตามความคิดของลุง จึงเป็นเรื่องของเด็กอนุบาลหัดขายของ ลองฝีมือเล่นๆเท่านั้น

.

การยิงโฆษณา ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ เพราะจะทำให้ทุนที่มีอยู่น้อยนิด ยิ่งหายไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง คุณหมดตัวไปกับค่าโฆษณา แต่สินค้าขายไม่ได้ (เรื่องจริงที่สุดเลยเรื่องนี้)  ... รอให้รวยก่อยก่อยค่อยกลับมาทำตลาดนี้ เพราะการยิงโฆษณาต้องยิงต่อเนื่องกันเป็น 6-12เดือน ฉนั้นไม่รวยจริงอย่าทำ

.

ขายผ่านยูทูป...เป็นไปได้ยาก เพราะ การปิดการขายค่อนข้างยาก  แต่ถ้าคุณไม่มีเวปไซด์เป็นของตัวเอง ลุงแนะนำให้ใช้ยูทูป เป็นสื่อให้การแนะนำสินค้า รีวิวสินค้า โฆษณาสินค้า แล้วลิงค์มาที่เฟสบุค หรือเวปไซค์ของคุณ(ถ้ามี) หรือลงเบอร์โทรหรือไลน์ให้ลูกค้าติดต่อคุณได้..............นี่คือการลงโฆษณาที่ได้ผลและถูกที่สุด เพราะมันฟรี นั่นเอง

.

ตามความเห็นลองลุง  การที่จะเริ่มก้าวแรก ในการขายสินค้าออนไลน์แบบไม่เสียเวลาของชีวิตไปเปล่าๆ

ตือ การเริ่ม ขายกับ ชอปปี และลาซาด้านี้ละ มีอนาคตที่สุด  เพราะเหมือนเราเริ่มต้นขายสินค้า ในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆเลย ย่อมีคนเดินพลุ่นพร่าน  คนเยอะ ย่อมีโอกาสขายได้เยอะ


ชอปปี กับลาซาด้าก็เช่นกัน ก็คือห้างสรรพสินค้า ออนไลน์ ที่สำคุญคือ ขายฟรี เปิดร้านฟรี ไม่มีค่าแรกเข้า ขายไม่ได้ก็ไม่เสียเงิน นี่คือข้อดีที่สุด ที่ต่างกับการยิงAdd กับเฟสบุค เสียตังไปแล้ว ขายได้ไม่ได้ไม่รู้ และก็เป็นเรื่องเดียว ที่แนะนำให้มาลงเล่นตลาดใหญ่ทีเดียวเลย  เพราะ ลาซาด้า กัยชอปปี มีการลงทุนโฆษณา ให้ท่านฟรีอยู๋แล้ว


ค่าธรรมเนียม จะเก็บก็ต่อเมื่อ สินค้าของท่านขายได้เท่านั้น (จริงๆแล้วลุงอยากให้บวกค่าธรรมเนียม ค่าโน่นนี่นั่นไว้สัก 10% ในราคาสินค้า นี่คือปลอดภัยที่สุดละ)


ทีนี้มาถึงว่า จะเปิดที่ไหนก่อนดี ระหว่าง ชอปปี กับลาซาด้า

ถ้าทำได้ก็เปิดมันทั้งสองนั่นละ


แต่ถ้าความรู้น้อย  อยากทำแบบศึกษาเองก่อน ลุงจะแนะนำ ลาซาด้า เพราะ มีผู้ใช้งานมากกว่าชอปปี้ เพราะเปิดมาก่อน นั่นละ ในแต่ละวัน ก็เหมือนมีคนเดินมากกว่า ไม่มีเหตุผลอื่น ฉนั้น คนเยอะกว่าโอกาสที่คุณจะได้เปิดบิลแรก เพื่อเป็นกำลังใจก็ย่อมมีมากกว่า

และนี้ก็คือคำแนะนำ สำหรับการเริ่มต้น สำหรับ ก้าวแรกสู่สังเวียน การขายออนไลน์ จากลุงแจ่มเองนั่นละ





วันจันทร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2565

ของดีไม่จำเป็นต้องวางขายทั่วไป

 ของดีไม่จำเป็นต้องวางขายทั่วไป


ประเด็นคือ ทำอย่างไรให้เขารู้ว่าเรามีของดี

แล้วผู้คนจะค้นมากันเอง

ประหยัดรวย ฟุ่มเฟือยจน

 ยังไม่ว่าง

จุดแข็งในธุรกิจของคุณ คืออะไร

 การทำธุรกิจ สิ่งหนึ่งที่ลอกเลียนแบบกันไม่ได้คือ ความเป็นตัวของตัวเองของคุณ นั่นเอง

ซื่องเป็นจุดแข็ง ที่จะนำพา ธุรกิจของคุณไปได้


เปิดร้านชนิดเดียวกัน บางคนรุ่งเรียง บางคนร่วงโรย

จุดแข็งคือจุดขาย จุดขายคือจุดแข็ง(แกร่งที่สุด)




ความชำนาญเฉพาะด้าน  สูตร เคล็ดลับ กลยุทธื์  ต่างๆ นั่นละ


ไม่ใช่คิดไม่ออก ลดแลด แจกแถม อย่างเดียว คุณจะได้แต่ลูกค้าตลาดล่าง ที่ไม่มีกำลังซื้อ


ยังมีคนอีกกลุ่ม ที่ต้องการสินค้าคุณภาพ ต้องการอาหารที่อร่อยจริง  ต้องการหาหมดที่เก่งที่สุด

ต้องการไปนั่งดื่มในที่ๆ สะบายใจที่สุด  คนกลุ่มนี้ มีกำลังที่จะจ่ายเงิน กับสิ่งเหล่านี้

แต่คุณกับทำธุรกิจ  ทำกิจการที่ละเลยคนเหล่านี้


กลับไปนั่งทำธุรกิรที่ใช้ทุนเยอะเพื่อแลกกับกำไรอันน้อยนิด

ใช่คน100ทั้งร้อย  จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีทุน


แต่สิ่งที่ทุกคนลืมไปป คุณคงเป็นคนมีปัญญา มีความคิด จงนำสิ่งนั้นมาเป็นทุน

เงินทุนเป็นส่วนประกอบ รองๆลงมา เริ่มจาก สัก 25 % ของเงินที่มี ก็ยังได้ ทดลองทำควบคุ๋กันไป แรกๆ อาจไม่คุ้มกับการทำงาน  ก็ค่อยๆ เอากำไร มาขยายงาน

.

คำถามวันนี้

    ทำไม ร้านลูกชิ้นปิ้ง ถึงมีอยู่ทั่วทุกซอย บางทีห่างกันไม่ถึง 50 เมตร ด้วยซ้ำไป


บางร้านก็ทำท่าจะเจ็ง แต่ร้านถัดไป ทำไม่คนเยอะจัง

ลำดับแรก น้ำจิ้ม ที่ต้องต่างกันอย่างแน่นอน เพราะลูกชิ้นซื้อที่ไหน ถ้ายี่ห้อเดียวกัน มันก็เหมือนกัน

ลำดับที่สอง  อัธยาสัยไมตรีเจ้าของร้าน  คุณจะดีใจไหม ถ้าคนขาย จำคุณได้ ทักทาย พูดคุยยิ้มแย้มตลอดการขาย ถึงแม้ว่าบางทีคุณจะมา นานๆครั้งก็ตาม

ลำดับสาม  ความสะอาดทั้งหน้าร้าน หลังร้าน 

ลำดับที่สี ถ้าชุบแป้ง แป้งต้องกรอบอร่อยนะจะ ไม่ใช่เหยี่ยวเนียวเมื่อเวลาผ่านไป(สูตรไงต้องลับเฉพาะ)


ทั้งนี้ทั้งนั้นเสน่ห์ของลูกชิ้นคือ น้ำจิ้มและเจ้าของร้านนั่นเอง




วันเสาร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565

ขายอะไร ถึงจะได้ กำไรดี

 ทุกคนบนโลกนี้ก็ถามแบนี้ ทุกคน แล้วถ้าทุกคนรู้ ก็คงจะขายเหมือนกันหมด

ไอ้ที่ว่ากำไรดี ก็คง จะไม่เหลือกำไร เพราะเมื่อสินค้ามีมากเกินความต้องการของคนซื้อ ราคามันก็ร่วง




การคิดจะขายอะไร ผู้ขายก็ควรจะมีความรู้พื้นฐานไปจนถึงผูชำนาญการ ในสินค้าชนิดนั้นๆ

หรือต้องศึกษา สินค้าของตัวเอง ให้พอรู้เรื่องบ้าง จะได้คุยกับลูกค้ารู้เรื่อง

จากเหตุผลข้อนี้ละ ที่จะเป็นคำตอบว่าขายอะไร ถึงกำไรดีที่สุด


เปรียบเทียบให้ดูสักตัวอย่าง

เครื่องซักผ้า ชาวบ้านทั้วไปพังแล้วก็ขายทิ้ง 200 บาท (เพราะไม่มีความรู้เกี่ยวกับเครื่องซักผ้า)

ช่างซื้อมา รือแผงวงจร ขาย 700-1500 มีแผง 2-3แผง

รื้อมอเตอร์ได้อีก 500 บาท ชื้นส่วนอื่นๆ รื้อแขวนไว้ รอลูกค้ามาเปลี่นน รวมๆแล้วได้เกือบ 3000 บาท

(มันไม่ใช่การเอาเปรียบ เพราะช่างคือผู้ชำนาญการเครื่องซักผ้า )


อีกสักตัวอย่าง

ไปซื้อซากรถมอไซด์เก่าจากชาวบ้าน มา 800 บาท  (ชาวบ้านไม่ใช่ผู้ชำนาญการ)

มารื้อขายที่ละชิ้น ช้าเร็วยังไงก็ขายได้ จาก 800 บาทก็กลายเป็น 3000-5000 บาท(เพราะคนที่รื้อขายคือคนที่มีความรู้เรื่องมอไซด์ว่ารถรุ่นไหน คนต้องการอะไหล่ รู็เรื่องรถมอไซด์เป็นอย่างดี)


จากสองตัวอย่างจะเป็นว่า  สิ่งที่จะทำให้ทำกำไรได้ ไม่ใช่เป็นที่ตัวสินค้า แต่เป็นความชำนาญ ความรู้เฉพาะทางต่างหาก ที่ทำกำไรได้มาก ได้น้อย ตามความรู้ที่แตกต่างกัน

และก็เป๋นคำตอบว่า ขายอะไร ถึงจะได้กำไรดี

"ขายและทำในสิ่งที่ตัวท่านมีความรู้ความชำนาญในสิ่งนั้นๆละ กำไรดี"



จงจำไว้ ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้าแล้วเราก็ไม่ได้ติดหนี้บุญคุณลูกค้า

 ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้า



การซื้อขาย คือการแลกเปลี่ยนอย่างยุติธรรม ระหว่างกันและกัน

ลูกค้าต้องการสินค้าของเรา เราตั้งราคา เจรจาต่อรอง แล้วชำระเงิน

นั่นคือ ความพึงใจ ของคนสองคน ที่มองแล้วคิดแล้วว่ายอมรับได้ทั้งสองฝ่าย

สมประโยชนืทั้งสองฝ่าย  ฉนั้น สิ่งที่คุณต้องมีคือ....ความเชื่อมั่นในตัวสินค้าของคุณเอง

และจงภูมิใจในสินค้าของตัวเอง

.

ที่สำคัญ อย่าดีใจที่ได้ขายของสินค้าราคาถูกกว่าความเป็นจริง เพราะมันคือหายนะ ของการทำธุรกิจ

ไม่ใช่ขายได้เพราะทั้งลด ทั้งแถม ทั้งแจก แบบไร้ค่า ไร้ราคา มันไม่ใช่ความน่าภูมิใจสักหน่อย ที่ขายของได้

.

คำถาม ฝากไปคิด....คุณเคยต่อราคา ค่ารักษากับหมอไหม  ถ้าไม่ ทำไมคุณถึงไม่ต่อราคา


นักขายจะขายสินค้าได้ราคาถูก 

จงเป๋นนักแก้ปัญหาแบบหมอ ถึงจะไม่มีคนต่อราคา


.

.