ประเด็นที่ 1 ถ้าเราไม่ได้ไปทำอะไรผิด ตำรวจก็ทำอะไรเราไม่ได้ ถ้าตำรวจจับตัวเราไป ทั้งๆที่เราไม่ได้ไปทำอะไรผิด ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม มีความผิด อาญา มาตรา 311 ข้อหากระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถูกหน่วงเหนี่ยว ถูกกักขัง หรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกาย , อีกอย่าง “ รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 28 ” ก็ชัดเจน ว่า “ บุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย การจับและการคุมขังบุคคล จะกระทำมิได้ เว้นแต่มีคำสั่ง หรือหมายของศาล หรือมีเหตุอย่างอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ ”
ประเด็นที่ 2 เอาคดีอาญามาเล่นงานเรา ทั้งๆที่เราไม่ได้ไปทำผิดอาญา เราไม่ได้ไปทำอะไรผิด ทั้งตำรวจหรือผู้ฟ้อง มีความผิด อาญา มาตรา 137 ข้อหาแจ้งความเท็จ , อาญา มาตรา 172 ข้อหาเบิกความเท็จ , อาญา มาตรา 173 ข้อหามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แต่แอบอ้างว่ามีความผิด , อาญา มาตรา 174 ข้อหาการแจ้งข้อความตามมาตรา 172 มาตรา 173 เป็นการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องถูกบังคับตามวิธีการเพื่อความปลอดภัย , อาญา มาตรา 175 ข้อหาเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้อื่น ว่าทำผิดอาญาแรงกว่าความเป็นจริง , อาญา มาตรา 177 ข้อหาเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้อื่น ความเท็จเป็นข้อสำคัญในคดี , อาญา มาตรา 200 ข้อหาเจ้าพนักงานกระทำการในตำแหน่งโดยมิชอบ หรือข้อหาเจ้าพนักงานกระทำการกลั่นแกล้งทำให้ผู้อื่นรับผิดทางอาญา
ตำรวจนิสัยดีๆ เราก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย เดี๋ยวกลับมาต่อในประเด็นที่ 3
ประเด็นที่ 3 ตำรวจหรือพนักงานสอบสวน ทำสำนวนหลอกอัยการ ตำรวจหรือพนักงานสอบสวน มีความผิด อาญา มาตรา 264 ข้อหาปลอมแปลงเอกสาร โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร กรอกข้อความลงในแผ่นกระดาษหรือวัตถุอื่นใด ซึ่งมีลายมือชื่อของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอม หรือโดยฝ่าฝืนคำสั่งของผู้อื่น , อาญา มาตรา 161 ข้อหาปลอมแปลงเอกสาร โดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้น , อาญา มาตรา 162 ข้อหาเจ้าพนักงาน กระทำการ (1) รับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ (2) รับรองเป็นหลักฐานว่า ได้มีการแจ้งซึ่งข้อความอันมิได้มีการแจ้ง (4) รับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ , อาญา มาตรา 179 ข้อหาทำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ เพื่อให้เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจหลงเชื่อว่ามีความผิดอาญาอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือเชื่อว่าความผิดอาญาที่เกิดขึ้นร้ายแรงกว่าที่เป็นความจริง , อาญา มาตรา 180 ข้อหานำสืบอันเป็นเท็จ พยานหลักฐานอันเป็นเท็จเป็นข้อสำคัญในคดี
ประเด็นที่ 4 เมื่อถูกตำรวจหรือเจ้าหน้าที่กระทำละเมิด ไปดู
“ พรบ. ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 มาตรา 6 ถ้าการกระทำละเมิดของเจ้าหน้าที่ มิใช่การกระทำในการปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่ต้องรับผิดในการนั้นเป็นการเฉพาะตัว ในกรณีนี้ผู้เสียหายอาจฟ้องเจ้าหน้าที่ได้โดยตรง แต่จะฟ้องหน่วยงานของรัฐไม่ได้ ”
“ พรบ. ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 มาตรา 8 ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายเพื่อการละเมิดของเจ้าหน้าที่ ให้หน่วยงานของรัฐมีสิทธิเรียกให้เจ้าหน้าที่ผู้ทำละเมิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนดังกล่าวแก่หน่วยงานของรัฐได้ ถ้าเจ้าหน้าที่ได้กระทำการนั้นไปด้วยความจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ”
“ กฎหมายแพ่ง มาตรา 420 ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สิน หรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น ”
ตำรวจคนนั้น ต้องปล่อยตัวคุณแม๊กซ์ อัจฉริยะ เป็นอิสระ ตำรวจคนนั้น ต้องออกมาขอโทษ หรือชดใช้ความเสียหายให้กับคุณแม๊กซ์ อัจฉริยะ ในฐานะผู้ถูกละเมิดด้วย
ประเด็นที่ 2 เอาคดีอาญามาเล่นงานเรา ทั้งๆที่เราไม่ได้ไปทำผิดอาญา เราไม่ได้ไปทำอะไรผิด ทั้งตำรวจหรือผู้ฟ้อง มีความผิด อาญา มาตรา 137 ข้อหาแจ้งความเท็จ , อาญา มาตรา 172 ข้อหาเบิกความเท็จ , อาญา มาตรา 173 ข้อหามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แต่แอบอ้างว่ามีความผิด , อาญา มาตรา 174 ข้อหาการแจ้งข้อความตามมาตรา 172 มาตรา 173 เป็นการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องถูกบังคับตามวิธีการเพื่อความปลอดภัย , อาญา มาตรา 175 ข้อหาเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้อื่น ว่าทำผิดอาญาแรงกว่าความเป็นจริง , อาญา มาตรา 177 ข้อหาเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้อื่น ความเท็จเป็นข้อสำคัญในคดี , อาญา มาตรา 200 ข้อหาเจ้าพนักงานกระทำการในตำแหน่งโดยมิชอบ หรือข้อหาเจ้าพนักงานกระทำการกลั่นแกล้งทำให้ผู้อื่นรับผิดทางอาญา
ตำรวจนิสัยดีๆ เราก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย เดี๋ยวกลับมาต่อในประเด็นที่ 3
ประเด็นที่ 3 ตำรวจหรือพนักงานสอบสวน ทำสำนวนหลอกอัยการ ตำรวจหรือพนักงานสอบสวน มีความผิด อาญา มาตรา 264 ข้อหาปลอมแปลงเอกสาร โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร กรอกข้อความลงในแผ่นกระดาษหรือวัตถุอื่นใด ซึ่งมีลายมือชื่อของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอม หรือโดยฝ่าฝืนคำสั่งของผู้อื่น , อาญา มาตรา 161 ข้อหาปลอมแปลงเอกสาร โดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้น , อาญา มาตรา 162 ข้อหาเจ้าพนักงาน กระทำการ (1) รับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ (2) รับรองเป็นหลักฐานว่า ได้มีการแจ้งซึ่งข้อความอันมิได้มีการแจ้ง (4) รับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ , อาญา มาตรา 179 ข้อหาทำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ เพื่อให้เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจหลงเชื่อว่ามีความผิดอาญาอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือเชื่อว่าความผิดอาญาที่เกิดขึ้นร้ายแรงกว่าที่เป็นความจริง , อาญา มาตรา 180 ข้อหานำสืบอันเป็นเท็จ พยานหลักฐานอันเป็นเท็จเป็นข้อสำคัญในคดี
ประเด็นที่ 4 เมื่อถูกตำรวจหรือเจ้าหน้าที่กระทำละเมิด ไปดู
“ พรบ. ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 มาตรา 6 ถ้าการกระทำละเมิดของเจ้าหน้าที่ มิใช่การกระทำในการปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่ต้องรับผิดในการนั้นเป็นการเฉพาะตัว ในกรณีนี้ผู้เสียหายอาจฟ้องเจ้าหน้าที่ได้โดยตรง แต่จะฟ้องหน่วยงานของรัฐไม่ได้ ”
“ พรบ. ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 มาตรา 8 ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายเพื่อการละเมิดของเจ้าหน้าที่ ให้หน่วยงานของรัฐมีสิทธิเรียกให้เจ้าหน้าที่ผู้ทำละเมิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนดังกล่าวแก่หน่วยงานของรัฐได้ ถ้าเจ้าหน้าที่ได้กระทำการนั้นไปด้วยความจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ”
“ กฎหมายแพ่ง มาตรา 420 ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สิน หรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น ”
ตำรวจคนนั้น ต้องปล่อยตัวคุณแม๊กซ์ อัจฉริยะ เป็นอิสระ ตำรวจคนนั้น ต้องออกมาขอโทษ หรือชดใช้ความเสียหายให้กับคุณแม๊กซ์ อัจฉริยะ ในฐานะผู้ถูกละเมิดด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น