นพ.สมยศ กล่าวว่า ผู้ป่วยไข้เลือดออก เกล็ดเลือดจะต่ำลงเรื่อย ๆ เนื่องจากมีภาวะเลือดออก และอาจทำให้เสียชีวิตได้ แต่การดื่มน้ำใบมะละกอวันละ 30 ซีซี. ติดต่อกัน 3 วัน ระดับเกล็ดเลือดที่ต่ำจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น เมื่อถามว่า ได้นำเสนอให้ผู้ใหญ่และผู้เกี่ยวข้องในกระทรวงสาธารณสุขได้รับทราบหรือยัง นพ.สมยศ กล่าวว่า ยัง แต่ได้เผยแพร่ใน ล้างพิษตับ.com เฟซบุ้กส่วนตัว ใส่ชื่อตนและเบอร์โทรศัพท์พร้อมให้ข้อมูลเรื่องนี้เพราะมีการรวบรวมงานวิจัยในเรื่องนี้เอาไว้หลายแห่ง อย่างไรก็ตามเริ่มพูดคุยกับ รพ.บางแห่งแล้ว
สำหรับขั้นตอนการรักษาโรคไข้เลือดออกด้วยใบมะละกอสด
คือ ใช้ใบมะละกอสดพันธุ์ใดก็ได้ประมาณ 50 กรัมจากต้นมะละกอ จากนั้นล้างให้สะอาด และทำการบดให้ละเอียด ไม่ต้องเติมน้ำ กรองเอากากออก ดื่มน้ำใบมะละกอสด แยกกาก วันละ ครึ่งแก้ว หรือ 30 ซีซี ติดต่อกัน 3 วัน วิธีนี้มีการวิจัยมาแล้วว่าไม่เป็นอันตราย”นพ.สมยศ กล่าว
นพ.สมยศ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าสารสำคัญตัวใดในใบมะละกอที่สามารถช่วยเพิ่มระดับเกล็ดเลือด รู้แต่ว่ากินแล้วได้ผล และทดลองในคนได้ผล ดังนั้นเมื่อกินแล้วไม่มีผลเสีย หรืออันตราย ถือเป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษา เพราะปกติผู้ป่วยไข้เลือดออกก็รักษาไปตามอาการอยู่แล้ว ทั้งนี้ได้พูดคุยกับ รพ.บางแห่งแล้วให้ลองนำไปใช้ดู และได้แจ้งเรื่องนี้ให้เจ้าหน้าที่ป้องกันและควบคุมโรคไปดูแล้ว
ใบมะละกอกับการรักษาโรค
“ใบมะละกอ” เป็นน้ำที่สกัดจากใบของต้นมะละกอ และเราทุกคนตระหนักถึงประโยชน์ต่อสุขภาพของการกินมะละกอ แต่เมื่อเร็วๆนี้สารสกัดจากใบมะละกอได้รับความนิยมเนื่องจากการค้นพบคุณสมบัติของสมุนไพรและมันสามารถช่วยบรรเทาโรคร้ายแรง เช่น โรคไข้เลือดออก และโรคมะเร็งได้
“ใบมะละกอ” เป็นน้ำที่สกัดจากใบของต้นมะละกอ และเราทุกคนตระหนักถึงประโยชน์ต่อสุขภาพของการกินมะละกอ แต่เมื่อเร็วๆนี้สารสกัดจากใบมะละกอได้รับความนิยมเนื่องจากการค้นพบคุณสมบัติของสมุนไพรและมันสามารถช่วยบรรเทาโรคร้ายแรง เช่น โรคไข้เลือดออก และโรคมะเร็งได้
ขั้นตอนการทำน้ำใบมะละกอที่บ้านตามขั้นตอนดังนี้
1.นำใบมะละกอขนาดต่างๆมาล้างให้สะอาด ปล่อยให้สะเด็ดน้ำ หั่นให้มีขนาดเล็กแล้วนำไปต้ม โดยใช้น้ำ 2 ลิตร
2.ต้มไปเรื่อยๆโดยที่ไม่ต้องปิดฝาหม้อ จนน้ำลดลงเหลือครึ่งหม้อ
3.แล้วกรองเอากากออกจนเหลือแค่น้ำใบมะละกอ เก็บไว้ในตู้เย็นได้ 3-4 วัน แนะนำว่าควรจะดื่มเลยจะดีที่่สุด
ไว้ควรดื่มหากเก็บไว้จนขึ้นฝ้าแล้ว
1.นำใบมะละกอขนาดต่างๆมาล้างให้สะอาด ปล่อยให้สะเด็ดน้ำ หั่นให้มีขนาดเล็กแล้วนำไปต้ม โดยใช้น้ำ 2 ลิตร
2.ต้มไปเรื่อยๆโดยที่ไม่ต้องปิดฝาหม้อ จนน้ำลดลงเหลือครึ่งหม้อ
3.แล้วกรองเอากากออกจนเหลือแค่น้ำใบมะละกอ เก็บไว้ในตู้เย็นได้ 3-4 วัน แนะนำว่าควรจะดื่มเลยจะดีที่่สุด
ไว้ควรดื่มหากเก็บไว้จนขึ้นฝ้าแล้ว
อีกวิธีหนึ่งคือ การคั้นน้ำใบมะละกอโดยการแยกกากออกจนเหลือแต่น้ำ
แม้ว่าน้ำของใบมะละกอจะมีประโยชน์อย่างมาก แต่ก็มีข้อห้ามสำหรับหญิงตั้งครรภ์ เพราะอาจทำให้เกิดอาการแท้ง นอกจากนี้ก็ไม่ควรที่จะบริโภคร่วมกับยาเกี่ยวกับไทรอยด์และโค เอ็นไซด์ Q10
ประโยชน์ของน้ำใบมะละกอที่มีต่อสุขภาพ
ตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ น้ำใบมะละกอ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาโรคไข้เลือดออก และมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่นๆดังนี้
1. โรคไข้เลือดออกเป็นโรคร้ายแรงที่เกิดจากไวรัสไข้เลือดออก โดยยุงลาย โรคนี้อาจถึงแก่ชีวิตได้ตลอดเวลา อาการของโรค เช่น ไข้ขึ้นสูง ปวดศรีษะ ปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง ปวดตามข้อ มีผื่นสีแดงบนร่างกาย ก่อให้เกิดอาการคัน และ ปริมาณของเกล็ดเลือดลดลง จนถึงขณะนี้ยังไม่มียาเฉพาะเจาะจงสำหรับโรคนี้ ยาแอสไพรินและไอบูโปรเฟน มีผลข้างเคียงในตัวมันเอง น้ำใบมะละกอเป็นวิธีรักษาตามธรรมชาติที่ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และหลายกรณีศึกษาได้แสดงให้เห็นว่า น้ำใบมะละกอ มีเอนไซม์ ไชโมปาเปน และ ปาเปน ที่ช่วยเพิ่มเกล็ดเลือด หรือที่เรียกว่า เกล็ดเลือด และยังบรรเทาอาการของโรค บริษัทผลิตยาได้เตรียมการผลิตสารสกัดจากใบมะละกอ ในรูปแบบของแคปซูล และสูตรแบบเหลว สำหรับให้ได้ผลที่รวดเร็ว แพทย์แนะนำให้ดื่มน้ำใบมะละกอ 20-25มล.วันละสองครั้ง ใน 1อาทิตย์
2. ใบมะละกอมีคุณสมบัติป้องกันโรคมาลาเรียได้เป็นอย่างดี ในบางประเทศใช้น้ำใบมะละกอในการป้องกันและรักษาโรคมาลาเรีย
3. คุณสมบัติต้านมะเร็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมะละกอมีความเข้มข้นในสารสกัดจากใบ ตามการวิจัยที่จัดทำโดยวารสาร enthnopharmacology พบว่าน้ำในใบมะละกอมีเอนไซม์บางอย่างที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านโรคมะเร็งได้อย่างน่าทึ่ง และเนื้องอกชนิดต่างๆ ที่มีผลต่อร่างกาย เช่น มะเร็งลำคอ มะเร็งเต้านม มะเร็งตับ มะเร็งปอด และมะเร็งตับอ่อน ปราศจากสารพิษต่อร่างกาย, ในบางประเทศใช้น้ำใบมะระกอเป็นตัวทำเคมีบำบัด โดยการควบคุม ที-เซลล์ และสารสกัดจากใบมะละกอยังเพิ่มการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันโรคมะเร็ง
4. ใบมะระกอมีสารอาหารที่สำคัญ เช่น วิตามิน A, B1, C และ E แคลอรี่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก และน้ำใบมีเอนไซม์ ที่สำคัญเรียกว่า ปาเปน ที่ช่วยย่อยอาหารโดยการสลายโปรตีนธรรมชาติ
5. น้ำใบมะละกอ มี สารออกฤทธิ์มากว่า 50 ส่วนผสม รวมทั้งสาร karpain ที่ยับยั้งจุลินทรีย์ อาทิ เชื้อรา หนอนปรสิต แบคทีเรีย เช่นเดียวกันกับรูปแบบของเซลล์มะเร็ง มักจะใช้ยาสมุนไพรเพื่อขับพยาธิ เนื่องจากทีแทนนินที่ปกป้องลำไส้จากการติดเชื้อจากากรฟอกโปรตีนในเยื่อบุของผนังลำไส้ ด้วยวิธีนี้ พยาธิไม่สามารถแนบตัวเอง ดังนั้นจึงมีประสิทธิภาพในการยับยั้งสาเหตุของไข้ไทฟอยด์
6. อีกประโยชน์ที่น่าตื่นใจของน้ำใบมะละกอ คือความสามารถในการต่อสู้กับการติดเชื้อไวรัสไข้หวัด มันเป็นวิธีธรรมชาติในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือด ใบมะละกอมีมากกว่า 50 ส่วนผสมรวมถึงวิตามิน A,C และ E ที่เพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
7. ใบมะละกอสดต้มกับส้มสไลด์บางๆช่วยในการเผาผลาญไขมัน เพราะน้ำมะละกอเป็นตัวที่ช่วยลดได้ดีที่สุด
8. น้ำใบมะละกอมีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ในกรณีนี้ ; ใบมะละกอ 1ใบ ,มะขาม และเกลือ ผสมเข้ากันกับน้ำ แล้วนำไปต้ม, แล้วดื่มหลังจากที่เย็นแล้ว เพื่อบรรเทาอาการปวด
ผิว – กับประโยชน์จากใบมะละกอ
ผลไม้มะละกอ มีประโยชน์อย่างมากกับผิว จะเห็นได้จากการนำไปพอกหน้า เพื่อช่วยให้ผิวสดใส เปล่งปลั่ง นอกจากผลแล้ว ใบมะละกอยังมีประโยชน์ต่อผิวเช่นกัน
ผิว – กับประโยชน์จากใบมะละกอ
ผลไม้มะละกอ มีประโยชน์อย่างมากกับผิว จะเห็นได้จากการนำไปพอกหน้า เพื่อช่วยให้ผิวสดใส เปล่งปลั่ง นอกจากผลแล้ว ใบมะละกอยังมีประโยชน์ต่อผิวเช่นกัน
9. น้ำใบมะละกออุดมไปด้วยวิตามิน A และ C เมื่อเทียบกับผลมะละกอ และช่วยส่งเสริมสุขภาพของผิว
10. น้ำใบมะละกอทำหน้าที่เหมือนการล้างผิว สามารถนำมาประกอบกับสาร karpain ที่ยับยั้งจุลินทรีย์และสารพิษอื่นๆ จึงทำให้คุณมีผิวที่สะอาด ปกป้องปัญหาผิวที่จะเกิดขึ้น เช่น สิว ฝ้า และกระเป็นต้น
11. น้ำใบมะละกอ มีประสิทธิภาพในการรักษาแผลเปื่อย กลาก เกลื้อน คุณสามารถ ทาที่มีอาการได้เลย
12 . นำใบมะละกอสด สามารถรักษาแผลและฝี
13. น้ำจากยางใบมะละกอ สามารถทาผิวหนังที่แข็งให้อ่อนนุ่มลง และทาหูดที่เท้าได้
14. น้ำใบมะละกอมักจะถูกใช้ในการทำสูตรการดูแลเส้นผม เช่น แชมพู และครีมนวดผม ทำให้เส้นผมแข็งแรง และครีมนวดผมยังผสมกับส่วนผสมอื่นๆ เช่น มะพร้าวและน้ำผึ้ง เพื่อเพิ่มเส้นผม ให้เงางาม และนุ่มขึ้น
15. สารสกัดจากใบมะละกอถูกนำมาใช้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นส่วนผสมในแชมพูขจัดรังแค หมายถึง การควบคุมและป้องกันสะเก็ด รังแค เพราะสารจาก Karpain มีประสิทธิภาพในการขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันรวมทั้งสารเคมีที่สร้างขึ้นมาจากผมโดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆทั้งสิ้น
Cr.พระอธิการ นพดล กันตสีโล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น