เชื่อเถอะในเทศกาลสงกรานต์นี้ ภาพที่นำเสนอ ถือเป็นภาพที่สามารภพบเห็นบนทางหลวงเส้นทางที่ใช้กลับ ตจว.โดยทั่วไป
มาลองวิเคราะห์กฎหมาย ม๑๔๐ ที่กำลังบังคับใช้อยู่จะเห็นว่า มี"เจ้าพนักงานจราจร"ผู้ที่กำลังใช้เครื่องอุปกรณ์ตรวจจับความเร็วเพียงผู้เดียวที่จะสามารถพบการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความเร็ว #เพียงผู้เดียว
ม๑๔๐ วรรคแรกให้อำนาจเจ้าพนักงานจราจรผู้ซึ่งพบการฝ่าฝืนด้วยเครื่องอุปกรณ์มีอำนาจว่ากล่าวตักเตือนหรือออกใบสั่งเพื่อให้ผู้ขับขี่ที่ฝ่าฝืนไปชำระค่าปรับตามที่เปรียบเทียบ
กรณีที่ไม่สามารถ ปฏิบัติตามวรรคแรกได้ ให้เจ้าพนักงานจราจรที่ออกใบสั่ง #ให้นำส่งใบสั่งไปทางไปรษณีย์ตอบรับ ตามวรรคสอง ไปยังเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองเพื่อให้มาชำระค่าปรับภายในระยะที่กำหนดในใบสั่งนั้น ทั้งนี้เป็นไปตามระเบียบที่ ผบ ตร กำหนด
ในส่วนวรรคสาม เป็นกรณีที่ไม่ทราบตัวผู้ขับขี่ที่ฝ่าฝืน ให้นำความในวรรคสองมาบังคับโดยอนุโลม
การตรวจจับความเร็วด้วยกล้อง(อุปกรณ์) ถือเป็นการตรวจจับผู้ฝ่าฝืนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยไม่สามารถทราบตัวผู้ขับขี่ที่ฝ่าฝืน และไม่พบตัวผู้ขับขี่ จะผูกติดใบสั่งไว้ในส่วนหน้ารถ เพื่อแสดงให้ผู้ขับขี่ที่ฝ่าฝืนเห็นก็ไม่สามารถกระทำได้ เพราะขณะที่พบด้วยอุปกรณ์นั้น รถที่ฝ่าฝืนกำลังแล่นอยู่ ไม่สามารถเรียกหยุดรถเพื่อว่ากล่าวตักเตือนหรือออกใบสั่งตามวรรคแรกได้
จึงต้องนำความววรคสองมาบังคับใช้โดยการนำทะเบียนรถไปตรวจสอบในระบบเพื่อทราบถึงเจ้าของรถหรือผู้ครอบครอง แล้วจึงนำส่งใบสั่งนั้นไปทางไปรษณีย์ตอบรับ
ในทางปฏิบัติ.....ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเจ้าพนักงานจราจรนั้น มิได้มีการปฏิบัติหรือเลือกปฏิบัติที่น้อยมากในเรื่องการนำส่งใบสั่งทางไปรษณีย์ตอบรับ
ที่พบเห็นกันบ่อย คือการวิทยุไปแจ้งให้เจ้าพนักงานจราจรที่จุดตรวจซึ่งตั้งดักไว้ในเส้นทางข้างหน้าเรียกหยุดรถและออกใบสั่ง
ซึ่งถือเป็นเรื่อฃงที่ปฎิบัติหน้าที่มิชอบ เจ้าพนักงานจราจรที่จุดตรวจมิได้เป็นผู้พบการฝ่าฝืนด้วยตัวเองและเครื่องอุปกรณ์ ทราบจากการรับแจ้งทางวิทยุ ซึ่งกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจว่ากล่าวหรือออกใบสั่ง
การออกใบสั่งลักษณะนี้ถือเป็นใบสั่งที่มิชอบ ไม่มีผลในทางกฎหมาย ผู้ขับขี่เลือกที่จะรับใบสั่งแล้วไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายได้ ไม่สามารถนำไปฟ้องคดี ด้วยการปฏิบัติมิชอบนั้นเอง
อีก ๑ วิธีการทำหน้าที่ที่เสียเปล่าของเจ้าพนักงานจราจร ที่ต้องนำมาพูดคุยกัน เพื่อให้กฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์ มีผลบังคับได้จริง
มิได้มีไว้เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ ในระบบ #ตั๋วตำรวจ ที่จะแปลงร่างเป็น #ตำรวจสายโจร ในที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น