หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2563

เพลงอยากมีผัว

เพลง อยากมีผัวเด่(5000)
กินข้าวก็ยังสะอึก เออะ
ล้างจานก็ยังสะอึก เออะ
กูขี้ก็ยังสะอึก เออะ
นี่กูเป็นหยังละวะ เออะๆๆๆ
ตอนนอนก็ยังสะอึก เออะ
สะดุ้งจนมุงสะเทือน เออะ
อาการอยากกอดเสาเรือน เออะ
กุอยากรูดดดดดดดดดดดดด เออะๆๆๆ
(ฮุก)มันทนไม่ไหวแล้ว ต้องหาคนรักษา
มันหวาดผวา ตอนกลางคืนดึกๆ
คันยุก คันยิ๊ก มันคัน ขะยึก ขะยึก
ใจมันคึก คึก มันอยากออกศึกสงคราม
(สโลว์)ประกาศให้โลกรู้..ว่ากูอยากอมีผัวววววว
บอกให้รู็กันทั่ว กุมีผัววววว อยากมีผัวววววววว
.
แร็ป
ประกาศให้โลกมันรู้ ละว่ากูนี่อยากมีผัว
กลางคืนกูอยากจะรัว ตับๆๆๆ ๆๆๆๆ
ปืนใหญ่ ปืนคอ ปืนครก ละให้มึงยก ยิงรัวมาใส่
เป้าบินอย่างกุร่อนไว กูจะร่อนใส่ ปืนใหญ่ ปืนครก 5555

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2563

ข้ามรั้วเข้ามาตัดต้นไม้ กิ่งไม้ ในที่ดินของผู้เสียหาย

ทนายเกิดผล แก้วเกิด
25 สิงหาคม เวลา 10:31 น.  · 
เพื่อนบ้าน  จ้างแรงงานต่างด้าว 3 คน ข้ามรั้วเข้ามาตัดต้นไม้  กิ่งไม้ ในที่ดินของผู้เสียหาย
ตัดเสร็จไปแจ้งความด้วยว่า ผู้เสียหายปล่อยให้กิ่งไม้รุกล้ำเข้าไป 
ผู้เสียหายไปแจ้งความ ตำรวจ ทำตัวเป็นทนายความ อ้างกฎหมายแพ่งพาณิชย์แบบมั่วๆ ว่าต้นไม้ติดกำแพง เจ้าของที่ดินข้างเคียงมีสิทธิตัดได้ 
อ้างว่า กฎหมายใหม่ ให้ปลูกต้นไม้ห่างจากรั้ว 2 เมตร 
กฎหมายฉบับไหน มาตรา ไหน  ⁉
เดือดร้อนถึงทนาย...
ผมคงต้องกางตัวบทกฎหมายให้ตำรวจดูจริงๆใช่ใหม ?
ป.พ.พ. มาตรา 1347ได้บัญญัตืไว้ว่า “เจ้าของที่ดินอาจตัดรากไม้ซึ่งรุกเข้ามาจากที่ดินติดต่อและเอาไว้เสีย #ถ้ากิ่งไม้ยื่นล้ำเข้ามา_เมื่อเจ้าของที่ดินได้บอกผู้ครอบครองที่ดินติดต่อให้ตัดภายในเวลาอันสมควรแล้ว แต่ผู้นั้นไม่ตัด  ท่านว่าเจ้าของที่ดิน ตัดเอาเสียได้”
แต่ถ้าตัดโดยไม่บอกกล่าว ก็ผิดฐานทำให้เสียทรัพย์
กำลังเดินทางไปหาตำรวจ 
และพาผู้เสียหายไปแจ้งความข้อหา ร่วมกันบุกรุก และ ทำให้เสียทรัพย์ เผลอๆ อาจลามไปถึง 157

แนวทางการพัฒนาคน ใด้เป็นคน

มุมคิด
25 สิงหาคม 2018  · 
เอสโตเนียพึ่งจะได้รับอิสรภาพเมื่อปี 1991 หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ซึ่งในเวลานั้น ประชาชนกว่าครึ่งของเอสโตเนียยังไม่มีโทรศัพท์บ้านด้วยซ้ำ
แต่เพียงแค่ 20 ปีต่อมา เอสโตเนียกลายเป็นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว และยังเป็นประเทศที่เจริญที่สุดในแง่นวัตกรรมและเทคโนโลยี (เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรแค่ 1.3 ล้านคน)
Skype หรือ Kazaa (P2P อันแรกๆของโลก) ก็ถูกพัฒนาขึ้นที่นี่ อีกทั้งยังเป็นประเทศแรกของโลกที่มีระบบบัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ (e-id card) พร้อมกันเชื่อมต่อระบบทั้งหมดไว้ด้วยกัน
ประชาชนจะลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง จะทำธุรกรรมโอนเงิน จะบินเข้าออกประเทศ จะซื้อบ้าน ซื้อรถ จะจ่ายภาษี จะเปิดบริษัท จะทำอะไรก็ได้ ทั้งหมดจะทำบนธุรกรรมออนไลน์
3 ปีที่แล้วผมได้มีโอกาสไปเที่ยวเอสโตเนีย วันนั้นผมตื่นเต้นมากที่ระบบ เช็คอินของโรงแรมที่ผมพัก "ไม่มีพนักงานต้อนรับ" เขาตั้งตู้ Kiosk ไว้เครื่องเดียวให้ผมกรอกเอกสารการจองแล้วบัตรคีย์การ์ดก็หล่นลงมาพร้อมส่งรายละเอียดการเข้าพักให้ในอีเมล์
แต่เพราะอะไรล่ะที่ทำให้ประเทศที่ครั้งหนึ่งเคยต้องอยู่ภายใต้โซเวียต ประชาชนไม่มีกิน กลายเป็นประเทศมหาอำนาจด้านเทคโนโลยีภายในระยะเวลาอันสั้น
1. #ปฏิรูปประเทศด้วยคนรุ่นใหม่อายุน้อย
ในปี 1992 หลังจากที่เอสโตเนียได้รับเอกราช Matt Laar ก็ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีพร้อมกับชุดรัฐมนตรีที่เด็กที่สุดในประวัติศาสตร์ (อายุเฉลี่ยรวม 35 ปี) ได้ปฏิรูประบบประเทศอย่างรวดเร็วโดยเน้นการพัฒนาประเทศโดย"เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง" เขาเริ่มจากแปรรูปรัฐวิสาหกิจ อะไรที่ชักช้าเอามาทำให้ไวขึ้น การเปลี่ยนกฎหมายให้เปิดบริษัทใหม่ง่ายขึ้น รวมถึงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานซึ่งอันแรกที่สร้างคืออินเตอร์เน็ต
2. #ความรู้ต้องเข้าถึงทุกคน
ต่อมาเขาบังคับให้ทุกโรงเรียนต้องมีคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนตั้งแต่ระดับประถม และในปี 1998 ทุกโรงเรียนในเอสโตเนียมี Internet ใช้ฟรีอีกทั้งระบบยังเชื่อมโรงเรียนเข้าด้วยกัน ทำให้โรงเรียนสามารถแชร์ความรู้กันได้
ในปี 2000 รัฐบาลประกาศว่า ประชาชนทุกคนต้องเข้าถึง Internet ฟรี ทำให้ตอนนี้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถหา free-wifi ได้ทั่วไป ไม่จำเป็นต้องไปร้านกาแฟเพื่อต่อ wifi เลย
3. #มองไปข้างหน้าเน้นไปที่การสร้างนวัตกรรม
ในปีเดียวกันนั้นเอง รัฐบาลยังยกเลิกระบบกระดาษก็อปปี้ กระดาษคาร์บอน รวมถึงการใช้ตราประทับ และการเซ็นสำเนาถูกต้อง โดยให้ทุกคนใช้การยืนยันผ่านระบบออนไลน์ทั้งหมด
และยังเป็นปีที่ประชาชน Estonia ขาย "Skype" Start Up ตัวแรกของพวกเขาได้เงินมา 2.6 พันล้านเหรียญ โดยเงินจำนวนนี้ ก็ถูกนำมาลงทุนใน Start Up ตัวใหม่ๆต่อ
4. #ยังไม่หยุดแค่นั้น
ในปี 2008 เอสโตเนียกลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว พร้อมกับเปิดให้ประชาชนทุกคนเรียนฟรี และรักษาสุขภาพฟรี
ในปี 2015 เอสโตเนียได้คะแนน PISA Score ลำดับที่ 3 ของโลกตามหลังเพียงสิงคโปร์ และญี่ปุ่น (ไทยละดับที่ 56 จาก 70)
ในปี 2016 กว่า 30%ของประชาชนทั้งหมดทำงานในด้านเทคโนโลยี และมีบริษัท start up เกิดใหม่ถึงปีละ 14,000 บริษัท
วันนี้เอสโตเนียได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีการเติบโตด้านนวัตกรรม สิทธิเสรีภาพของมนุษย์ และด้านการเติบโตของเศรษฐกิจสูงลำดับต้นๆของโลก .... ทั้งๆที่เขาพึ่งจะเป็นประเทศได้เพียง 20 กว่าปีเท่านั้น
.... #แล้วไทยล่ะ เราเป็นเสือตัวที่ 5 มากี่ปีแล้ว ? เราเอาแนวทางอะไรของเอสโตเนียมาปรับใช้ได้บ้างเพื่อพัฒนาประเทศ อาจจะไม่ใช่ให้รัฐบาลคิดคนเดียว พวกเราเองก็ต้องช่วยกันคิดด้วยครับ #มุมคิด